คุณจะออกเดินทางจาก ฟิเรนเซ เซ็นตา มาเรีย โนเวลลา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ฟลอเรนซ์ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจเนวา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนีวา.
คุณจะออกเดินทางจาก ฟิเรนเซ เซ็นตา มาเรีย โนเวลลา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ฟลอเรนซ์ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เจเนวา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เจนีวา.
การเดินทางโดยรถไฟจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง เจนีวา เป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีทัศนียภาพสวยงามและน่าสนใจที่สุดในยุโรป ระยะทางรวมประมาณ 560 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นการเดินทางจากสถานี Firenze Santa Maria Novella ในฟลอเรนซ์ และสิ้นสุดที่สถานี Gare de Genève-Cornavin ในเจนีวา
มิลาน เป็นจุดหยุดที่สำคัญระหว่างทาง ที่นี่คุณสามารถเปลี่ยนขบวนไปยังเจนีวา หรือหากมีเวลาคุณสามารถแวะชม มหาวิหาร Duomo di Milano ที่สวยงาม
ตลอดการเดินทาง คุณจะได้ชมทัศนียภาพเขาแอลป์ที่โอบล้อมทุ่งโปร่งและหุบเขาต่างๆ การเดินทางโดยรถไฟในเส้นทางนี้ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเวลาและจำนวนการเปลี่ยนขบวนรถไฟ
การเยือนเมือง มิลาน และ เจนีวา จะทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ร่ำรวย รวมถึงการชิมอาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร เดินทางโดยรถไฟยังช่วยให้คุณได้สัมผัสกับความงามของยุโรปในมุมมองที่ไม่เหมือนใคร ทั้งยังเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
รถไฟจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง เจนีวา ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟจากฟลอเรนซ์ไปเจนีวาทั่วไปใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนรถไฟและเวลารอ.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง เจนีวา โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดมีการเปลี่ยนรถไฟครั้งเดียวที่ มิลาน ต้องใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง 50 นาที.
รถไฟจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง เจนีวา ราคาเท่าไหร่?
ราคาโดยสารอาจแตกต่างกันตามชั้นบริการและช่วงเวลา โดยปกติจะอยู่ระหว่าง €75 ถึง €150.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง เจนีวา หรือไม่?
ไม่ ผู้โดยสารจำเป็นต้องเปลี่ยนรถไฟที่สถานีอื่น เช่น มิลาน หรือ โตริโน่.
ระยะทางจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง เจนีวา โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟระหว่างฟลอเรนซ์และเจนีวาคือประมาณ 530 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง เจนีวา?
เส้นทางนี้อาจรวมถึงการหยุดที่โบโลญญา, มิลาน, และ โตริโน่ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการรถไฟและเส้นทางที่เลือก.
เมืองฟลอเรนซ์เป็นหนึ่งในมุกมณีของอิตาลีที่รังสรรค์ความงามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง ตั้งแต่ความอลังการของคาทีดรัลไปจนถึงมาสเตอร์พีซของศิลปินระดับโลก ต่อไปนี้คือรายการสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองแห่งนี้:
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิออเร (Duomo di Firenze): เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่โดดเด่นด้วยหลังคาโดมขนาดใหญ่และการตกแต่งภายในที่อลังการ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มหาวิหารเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10:00-17:00 ค่าเข้าชม €18 แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเข้าชมการเดินทางรอบเมืองฟลอเรนซ์สามารถทำได้ง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพหรือการเดินเท้าเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่แท้จริงของเมือง มีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายรอบๆ จุดท่องเที่ยวที่ให้บริการอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ซึ่งคุณไม่ควรพลาดการลิ้มลองพิซซ่าและเจลาโต้ที่เลื่องชื่อ
เจนีวา เมืองแห่งแม่น้ำโรนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมจากยุคกลางจนถึงยุคใหม่ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์.
พิพิธภัณฑ์แห่งอาร์ตและประวัติศาสตร์ (Musée d'Art et d'Histoire): หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดใน เจนีวา และมีคอลเลกชันศิลปะที่หลากหลายตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงสมัยใหม่ สถานที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ค่าเข้าชมฟรี. มหาวิหารเซนต์ปีแยร์ (St. Pierre Cathedral): มหาวิหารหลักของ เจนีวา ที่มีประวัติยาวนานมากกว่า 850 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคและโรมานเอสก์ เปิดทุกวัน และมีการเปิดให้เข้าชมภายในฟรี. พาเลส เดส เนชั่นส์ (Palais des Nations): อาคารที่เป็นศูนย์กลางการทำงานของสหประชาชาติ นอกจากความสำคัญทางการเมืองแล้ว ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Art Deco การเยี่ยมชมต้องจองล่วงหน้า. น้ำพุเจนีวา (Jet d'Eau): หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุสูง 140 เมตร ตั้งอยู่ที่ท่าเรือ Eaux-Vives ไม่มีค่าเข้าชม และเป็นจุดที่สามารถชมวิวของเมืองได้อย่างงดงาม. สวนอังกฤษ (Jardin Anglais): สวนสาธารณะที่มีความสวยงามตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำเลคจากเนปเชอร์ สวนนี้เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้และประติมากรรมต่างๆ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน. ตลาดเมืองเก่า (Marché de la Vieille Ville): ตลาดที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าขายอาหารท้องถิ่นและสินค้าฝีมือ มีเสน่ห์ด้วยบรรยากาศย้อนยุค เปิดทุกวันเสาร์ทั้งวัน. พิพิธภัณฑ์พาเทค ฟิลิป (Patek Philippe Museum): พิพิธภัณฑ์นาฬิกาที่เล่าเรื่องราวของการผลิตนาฬิกาใน เจนีวา และแสดงนาฬิกาโบราณที่มีค่าที่สุดในโลก ค่าเข้าชม 10€.การเดินทางรอบ เจนีวา จะให้ความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย ทำให้ทุกมุมของเมืองมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร และเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ท้าทายการค้นหา.
สถานีรถไฟหลักของฟลอเรนซ์คือ ฟลอเรนซ์ ซานตา มาเรีย โนเวลลา (Firenze Santa Maria Novella) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญของเมือง นอกจากนี้ยังมีสถานีอื่นๆ เช่น ฟลอเรนซ์ คัมโป ดิ มาร์เต และ ฟลอเรนซ์ ริฟเรดี้ ที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังหลายพื้นที่ในเมืองและพื้นที่โดยรอบเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางผู้เดินทางสามารถใช้บริการรถไฟเหล่านี้ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
สถานี ฟลอเรนซ์ ซานตา มาเรีย โนเวลลา ตั้งอยู่ที่ Piazza della Stazione, 50123 Firenze, พร้อมให้บริการตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 01:30 น. ทุกวันบริการเก็บกระเป๋าที่สถานีนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกรับภาระของสัมภาระ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้การเดินทางภายในฟลอเรนซ์และการเชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในอิตาลีเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย
เจนีวา มีสถานีรถไฟหลักที่ใหญ่และสำคัญที่สุดคือ Gare Cornavin นอกจากนี้ยังมีสถานีรองอื่นๆ เช่น Genève Eaux-Vives และ Genève Sécheron ที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและเมืองที่สำคัญอื่นๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ และต่างประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อคมนาคม อย่างมีประสิทธิภาพต่อทั้งภายในและระหว่างประเทศ
สถานี Gare Cornavin ตั้งอยู่ที่ Place de Cornavin, 1201 Genève ให้บริการเวลาทำการที่ยืดหยุ่นตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่เดินทางไปมา นอกจากนี้ยังมีบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกของหนักๆ ติดตัว สถานีนี้ให้บริการครบครัน ซึ่งรวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ใช้บริการ
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ