คุณจะออกเดินทางจาก ฟิเรนเซ เซ็นตา มาเรีย โนเวลลา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ฟลอเรนซ์ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ซัลซ์บูร์ก Hbf ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ซาลซ์บูร์ก.
คุณจะออกเดินทางจาก ฟิเรนเซ เซ็นตา มาเรีย โนเวลลา ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ฟลอเรนซ์ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ซัลซ์บูร์ก Hbf ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ซาลซ์บูร์ก.
การเดินทางโดยรถไฟจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง ซาลซ์บูร์ก เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและความสวยงามทางวัฒนธรรมของยุโรป. การเดินทางเริ่มต้นที่สถานี Firenze Santa Maria Novella ในฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่มีความสำคัญและสวยงามที่สุดในอิตาลี.
ระยะทางรวมของการเดินทางคือประมาณ 700 กิโลเมตร โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนขบวนและประเภทของรถไฟที่เลือกใช้. การเดินทางนี้มักจะต้องเปลี่ยนขบวนที่เมืองโบโลญญา และมิวนิค ซึ่งเป็นเมืองสำคัญที่จะผ่านในระหว่างการเดินทาง.
เมื่อถึง ซาลซ์บูร์ก ผู้เดินทางจะได้พบกับสถานี Salzburg Hauptbahnhof ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางโดยรถไฟครั้งนี้. ซาลซ์บูร์กเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่นี่คุณสามารถเพลิดเพลินกับศิลปะและดนตรี รวมถึงชมบ้านเกิดของโมซาร์ตและปราสาทโบราณที่งดงาม.
การเดินทางโดยรถไฟระหว่างฟลอเรนซ์และซาลซ์บูร์กไม่เพียงแต่เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความงดงามของภูมิทัศน์และเมืองต่าง ๆ ที่คุณจะได้พบเห็นตลอดทาง.
รถไฟจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง ซาลซ์บูร์ก ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางโดยรถไฟจากฟลอเรนซ์ถึงซาลซ์บูร์กอาจใช้เวลาประมาณ 7-9 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนรถไฟและเวลารอ.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง ซาลซ์บูร์ก โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดโดยรถไฟมักจะผ่าน มิลาน และ มิวนิค พร้อมการเปลี่ยนรถไฟสองครั้ง.
รถไฟจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง ซาลซ์บูร์ก ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วรถไฟจะอยู่ระหว่าง 50-150 € แล้วแต่ช่วงเวลาและระดับความสะดวกสบายที่เลือก.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง ซาลซ์บูร์ก หรือไม่?
ไม่, ต้องเปลี่ยนรถไฟอย่างน้อยหนึ่งครั้ง.
ระยะทางจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง ซาลซ์บูร์ก โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟระหว่างฟลอเรนซ์ไปซาลซ์บูร์กประมาณ 700 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก ฟลอเรนซ์ ไปยัง ซาลซ์บูร์ก?
รถไฟอาจหยุดที่เมืองหลัก ๆ เช่น มิลาน, เวโรนา, และ มิวนิค ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก.
เมืองฟลอเรนซ์เป็นหนึ่งในมุกมณีของอิตาลีที่รังสรรค์ความงามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง ตั้งแต่ความอลังการของคาทีดรัลไปจนถึงมาสเตอร์พีซของศิลปินระดับโลก ต่อไปนี้คือรายการสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองแห่งนี้:
มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิออเร (Duomo di Firenze): เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่โดดเด่นด้วยหลังคาโดมขนาดใหญ่และการตกแต่งภายในที่อลังการ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มหาวิหารเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10:00-17:00 ค่าเข้าชม €18 แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเข้าชมการเดินทางรอบเมืองฟลอเรนซ์สามารถทำได้ง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพหรือการเดินเท้าเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่แท้จริงของเมือง มีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายรอบๆ จุดท่องเที่ยวที่ให้บริการอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ซึ่งคุณไม่ควรพลาดการลิ้มลองพิซซ่าและเจลาโต้ที่เลื่องชื่อ
สำรวจความงามของ ซาลซ์บูร์ก, เมืองที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ที่ล้ำลึก อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เกิดของโมสาร์ท ผู้ประพันธ์ดนตรีชื่อก้องโลก
ปราสาทฮอห์เซนซัลซ์บูร์ก (Hohensalzburg Fortress): ตั้งอยู่บนยอดเขาเหนือเมือง, ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดและอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในยุโรปกลาง มองเห็นทัศนียภาพของเมืองซาลซ์บูร์กและเทือกเขาแอลป์อย่างไพศาล เปิดทุกวัน, ค่าเข้าชม €16. แนะนำให้เดินขึ้นเนินหรือใช้รถรางเพื่อชมวิวที่สวยงาม. บ้านเกิดโมสาร์ท (Mozart's Birthplace): ที่นี่คือบ้านที่โมสาร์ทเกิดและเติบโต, ตั้งอยู่ในถนนเก็ตไรเดอกาสเซ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเอกสารและวัตถุของโมสาร์ท เปิดตั้งแต่เวลา 09:00-17:30, ค่าเข้าชม €11. อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศของยุคบาโรคในห้องแห่งนี้. มหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral): มหาวิหารแบบบาโรกที่สวยงา่มนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สำคัญที่สุดในเมือง มีลักษณะเด่นด้วยหอกระซิบที่งดงามและการตกแต่งภายในอย่างประณีต เปิดทุกวัน, ไม่มีค่าเข้าชม. ลองสังเกตการจัดวางขององค์ประกอบศิลปะภายใน. มิราเบลล์ การ์เดนส์ (Mirabell Gardens): สวนสไตล์บาโรกที่ออกแบบมาอย่างวิจิตรบรรจง ตั้งอยู่หน้าพระราชวังมิราเบลล์ เป็นที่นิยมสำหรับการถ่ายภาพ ไม่มีค่าเข้าชม. เหมาะสำหรับการเดินเล่นยามเย็น. พิพิธภัณฑ์ซาลซ์บูร์ก (Salzburg Museum): ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปะของซาลซ์บูร์ก ผ่านการจัดแสดงที่มีการโต้ตอบได้ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์, ค่าเข้าชม €8. อย่าพลาดชมชุดเกราะโบราณและเหรียญทอง. เฟสตุงเกส (Festungsgasse): ถนนเล็กๆ ที่มีร้านค้าและคาเฟ่มากมาย ให้บรรยากาศที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและชิมอาหารท้องถิ่น อย่าลืมลิ้มลอง ชนิดเนื้อสัตว์และเบียร์ซาลซ์บูร์ก. ฮางาร์เทียเตอร์ (Hangar-7): สถานที่จัดแสดงเครื่องบินที่มีการออกแบบทันสมัยและคอลเลคชันรถยนต์ เปิดทุกวัน, ไม่มีค่าเข้าชม. เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในยานพาหนะ.การเดินทางรอบเมือง ซาลซ์บูร์ก นั้นเต็มไปด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างศิลปะและประวัติศาสตร์ อย่าพลาดที่จะสัมผัสกับอาหารพื้นเมืองที่แสนอร่อย เช่น, ชนิเซล (Schnitzel), และซัคเคอร์ทอร์ต (Sachertorte) นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารมากมายที่ให้บริการอาหารทั่วโลก ให้คุณได้ลิ้มลอง
สถานีรถไฟหลักของฟลอเรนซ์คือ ฟลอเรนซ์ ซานตา มาเรีย โนเวลลา (Firenze Santa Maria Novella) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญของเมือง นอกจากนี้ยังมีสถานีอื่นๆ เช่น ฟลอเรนซ์ คัมโป ดิ มาร์เต และ ฟลอเรนซ์ ริฟเรดี้ ที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังหลายพื้นที่ในเมืองและพื้นที่โดยรอบเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางผู้เดินทางสามารถใช้บริการรถไฟเหล่านี้ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
สถานี ฟลอเรนซ์ ซานตา มาเรีย โนเวลลา ตั้งอยู่ที่ Piazza della Stazione, 50123 Firenze, พร้อมให้บริการตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 01:30 น. ทุกวันบริการเก็บกระเป๋าที่สถานีนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกรับภาระของสัมภาระ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้การเดินทางภายในฟลอเรนซ์และการเชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในอิตาลีเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย
สถานีรถไฟหลักของซาลซ์บูร์ก หรือ Salzburg Hauptbahnhof เป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญในออสเตรีย โดยมีการเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟหลายสายทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เช่น ไปยังเวียนนา มิวนิก และซูริค นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟย่อยอื่นๆ ในเมือง เช่น Salzburg Sam และ Salzburg Taxham ซึ่งให้บริการเส้นทางภายในเมืองและไปยังพื้นที่ใกล้เคียง
สำหรับสถานีSalzburg Hauptbahnhof ตั้งอยู่ที่ Südtiroler Platz 1, 5020 Salzburg, Austria สถานีเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:00 น. ถึง 00:30 น. บริการสำคัญที่นี่รวมถึงการให้เช่าตู้เก็บกระเป๋าที่สามารถใช้ได้ตามเวลาทำการของสถานี ช่วยให้ผู้เดินทางสะดวกสบายในการจัดเก็บสัมภาระขณะท่องเที่ยวในเมือง
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ