คุณจะออกเดินทางจาก ไมนซ์ สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ไมนซ์ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ดูสิลดอร์ฟ เฮาน์บอร์ฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ดัสเซลดอร์ฟ.
คุณจะออกเดินทางจาก ไมนซ์ สถานีรถไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ไมนซ์ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ ดูสิลดอร์ฟ เฮาน์บอร์ฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ ดัสเซลดอร์ฟ.
From Mainz, travelers will first arrive at Frankfurt (Main) Hauptbahnhof, the largest railway station in Germany. Here, travelers can find a wide range of amenities, such as restaurants, shops, and Wi-Fi. The next stop is in Cologne, where travelers will see one of the most iconic and photogenic sites in Germany, the Cologne Cathedral. From there, the train’s final stop is in Düsseldorf, a city often referred to as Germany’s "Little Paris."
This route is approximately 230 kilometers in total, and passes through several smaller cities, such as Bingen and Koblenz. Along the way, travelers can also admire the spectacular views of the Rhine River, which offers plenty of photo opportunities. The journey to Düsseldorf is a great way to experience a unique and quick itinerary with plenty of sights to explore. Whether a solo traveler or with family and friends, the journey from Mainz to Düsseldorf is sure to be a memorable one.
เยือนไมนซ์เมืองที่ผสานความงามของประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัว ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายของคนรักหนังสือ แต่ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่แสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมือง
มหาวิหารไมนซ์ สำรวจความอลังการของโบสถ์ที่มีอายุกว่า 1000 ปี ที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางของความเชื่อทางศาสนาและประวัติศาสตร์ มีการจัดแสดงงานศิลปะโบราณอย่างจิตรกรรมฝาผนังและประติมากรรมหิน
ตำแหน่งที่ตั้ง: Domplatz, ไมนซ์
เวลาเปิด-ปิด: 09:00-18:00 ทุกวัน
ค่าเข้าชม: ฟรี
พิพิธภัณฑ์กูตินเบิร์ก เยี่ยมชมที่มาของการพิมพ์ด้วยการดูเครื่องพิมพ์จากยุคกูเทนเบิร์ก แห่งนี้เป็นที่ระลึกถึง Johannes Gutenberg ผู้ปฏิวัติวงการพิมพ์
ตำแหน่งที่ตั้ง: Liebfrauenplatz 5, ไมนซ์
เวลาเปิด-ปิด: 09:00-17:00 (จันทร์-อาทิตย์)
ค่าเข้าชม: €5
โบสถ์ St. Stephan สัมผัสกับเสียงกระจกสีที่ออกแบบโดย Marc Chagall ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกของเทพนิยาย
ตำแหน่งที่ตั้ง: Kleine Weissgasse 12, ไมนซ์
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-16:00 ทุกวัน
ค่าเข้าชม: ฟรี
พิพิธภัณฑ์รัฐไมนซ์ ดำดิ่งสู่ประวัติศาสตร์ของไมนซ์และภูมิภาครอบ ๆ ผ่านการจัดแสดงที่หลากหลาย รวมถึงศิลปะและประวัติศาสตร์ธรรมชาติ
ตำแหน่งที่ตั้ง: Große Bleiche 49-51
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-17:00 (ปิดวันจันทร์)
ค่าเข้าชม: €6
Markt ห้ามพลาดตลาดกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่่น จากผักสดจนถึงน้ำหมัก ใช้เวลาเดินชมได้ทั้งวัน
ตำแหน่งที่ตั้ง: Markt, ไมนซ์
เวลาเปิด-ปิด: 07:00-14:00 (วันอังคาร, ศุกร์ และเสาร์)
ค่าเข้าชม: ฟรี
Handwerkskammer สำรวจแกลเลอรี่และบูติกของช่างฝีมือท้องถิ่่น ที่นี่มีการจำหน่ายผลงานศิลปะและงานฝีมือที่ไม่เหมือนใคร
ตำแหน่งที่ตั้ง: Dagobertstrasse 2, ไมนซ์
เวลาเปิด-ปิด: 09:00-17:00 (จันทร์-ศุกร์)
ค่าเข้าชม: ฟรี
การเดินทางรอบไมนซ์ เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีโอกาสทานอาหารพื้นเมือง เช่น Handkäse mit Musik และ Weck, Wurst und Woi ที่ร้านอาหารโบราณทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นชมเมืองหรือการค้นพบสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ไมนซ์มอบประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น
ดัสเซลดอร์ฟ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังของสถาปัตยกรรมทันสมัยและเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเยอรมนี
Altstadt (Old Town)
เป็นหัวใจของเมือง และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ห้องนั่งเล่นที่ยาวที่สุดในโลก" พื้นที่นี้เต็มไปด้วยบาร์ ร้านอาหาร และร้านค้า นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ Kunstpalast ที่มีผลงานศิลปะจากหลายยุคหลายสมัยที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม
Rheinturm
หอคอยที่สูงที่สุดในเมือง มีความสูง 240.5 เมตร บนยอดหอมีจุดชมวิวและร้านอาหาร ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองและแม่น้ำไรน์ได้อย่างงดงาม
Königsallee
ถนนช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดของเยอรมนี เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม คาเฟ่ และห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียม สถานที่นี้ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นที่สำหรับถ่ายภาพที่สวยงามด้วย
Schloss Benrath
พระราชวังสไตล์บารอค ที่สวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนที่กว้างขวาง นอกจากจะเป็นที่ชมสถาปัตยกรรมที่งดงามแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะภายในพระราชวังด้วย
St. Lambertus Church
เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์ ด้วยหอคอยที่บิดเบี้ยว โบสถ์แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
MedienHafen
ย่านท่าเรือเก่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานที่ทันสมัยและอาคารที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก เป็นที่ยอดนิยมในการเดินเล่นและถ่ายภาพ
Neanderthal Museum
พิพิธภัณฑ์ที่มุ่งเน้นแสดงเกี่ยวกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล และประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค้นพบโครงกระดูกนีแอนเดอร์ทัลครั้งแรก สถานที่นี้มีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์
การเดินทางรอบ ดัสเซลดอร์ฟ นั้นสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ทั้งรถไฟ รถราง และรถประจำทาง ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่าไปโดยไม่ต้องเสียเวลามาก นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสกับอาหารพื้นเมืองที่หลากหลายอย่างเช่น Altbier ซึ่งเป็นเบียร์ดั้งเดิมของเมืองและเมนู Rhineland ที่เลื่องชื่อ ที่ร้านอาหารท้องถิ่น
ในเมืองไมนซ์ (Mainz) ของเยอรมนี สถานีรถไฟหลักคือMainz Hauptbahnhof ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญที่ผู้คนใช้เดินทางไปยังหลายจุดในและนอกประเทศ นอกจากนี้ยังมีสถานีเล็กๆ เช่น Mainz Römisches Theater และ Mainz-Mombach ซึ่งให้บริการรถไฟภายในเมืองและเขตชานเมือง
สำหรับMainz Hauptbahnhof ตั้งอยู่ที่ Bahnhofplatz 1, 55116 Mainz สถานีเปิดทำการทุกวันและมีบริการหลากหลายรวมถึงบริการเก็บกระเป๋า ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทางที่มาถึงก่อนเวลาเช็กอินหรือต้องการสำรวจเมืองโดยไม่มีสัมภาระก่อนออกเดินทางต่อไป
ในเมืองดัสเซลดอร์ฟของเยอรมนีมีสถานีรถไฟหลักที่ใหญ่และสำคัญซึ่งคือสถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟเซ็นทรัล (Düsseldorf Hauptbahnhof) นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟขนาดเล็กที่ให้บริการรถไฟภายในเมืองและรถไฟท้องถิ่นอีกหลายแห่ง เช่น สถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟ-เบนราธ (Düsseldorf-Benrath) และสถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟ-เดอร์เรนดอร์ฟ (Düsseldorf-Derendorf) ซึ่งทำให้การเดินทางภายในเมืองและไปยังเมืองใกล้เคียงสะดวกสบายยิ่งขศาน.
สถานีสถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟเซ็นทรัลตั้งอยู่ที่ Konrad-Adenauer-Platz 1, 40210 Düsseldorf, เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:30 น. จนถึง 00:30 น. ที่สถานีนี้มีบริการเก็บกระเป๋า ทำให้ผู้ที่ต้องการเดินทางต่อหรือมาเยือนเมืองเพื่อท่องเที่ยวสามารถฝากสัมภาระไว้ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีบริการต่างๆ เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร และจุดบริการข้อมูลท่องเที่ยวเพื่อความสะดวกสบายของผู้เดินทาง.
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ